31 ตุลาคม  

วันนี้บินจาก Buenos Aires ประเทศอาร์เจนตินา ถึงเมือง Lima เมืองหลวงของเปรู บินมาถึงสองทุ่มล่ะ แต่เจ้าของคอนโดที่เราเช่าห้องไว้ ช่วยจัดรถแทกซี่ไปรอรับเรา (การันตีความปลอดภัย - สำคัญมากสำหรับผู้หญิงเดินทางคนเดียว)

ทักทายพอสังเขป แล้วเข้าห้องหาข้อมูลว่าพรุ่งนี้จะไปที่ไหนดี และนอนเอาแรง

1 พฤศจิกายน

ตื่นเช้ามาก็มีกาแฟพร้อมอาหารเช้ารอไว้แล้ว เป็นการต้อนรับอย่างอบอุ่นอีกครั้งจากเจ้าของบ้านที่ชื่อ Mary

ที่พักใช้บริการเช่าห้องพักของชาวเปรูที่ให้เช่าห้องนอนในคอนโดของตัวเอง เจ้าของเป็นผู้หญิงที่เกษียณอายุแล้ว ชื่อ Mary อยู่คนเดียว คอนโดอยู่ในย่าน Miraflores ของเมืองลิม่า Mary น่ารักมาก ทุกเช้า แกจะลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ ให้ทาน แม้เราจะพูดภาษาสเปนได้น้อยนิด เราก็พยายามสื่อสารกันได้ เปิด phrases, dictionary กันนัวเนีย พูดคุยเรื่องราวของครอบครัวแก ลูกสาวลูกชาย หลานๆ เราก็เอารูปจากที่บ้านให้ดู เล่าให้ฟังว่าเราไปไหนมาบ้าง และกำลังจะไปไหน ที่สำคัญแกชอบเดินทางเช่นกัน แต่ไปแถบทวีปอเมริกากับยุโรปซะส่วนใหญ่ เพราะลูกสาวอยู่ Switzeralnd แกยังแนะนำว่าไปไหน ยังไง และตอนเรากลับเข้าบ้านมา แกมีทำขนมไว้ให้เราทานด้วย เรียกว่า Mazamorra Morada เป็นการนำเอาข้าวโพดดำมาต้มกับน้ำตาล ใส่เมล็ดธัญพืชและผงอบเชยเข้าไป เคี่ยวเหนียวๆ กินตอนร้อนก็ได้ หรือแช่เย็นก็อร่อย 

Credit ภาพบน : Google 

ชอบที่พักแบบนี้ ทำให้เราได้เรียนรู้คนประเทศนั้นๆ ได้มากขึ้นและเร็วขึ้น มื้อเย็นเราทำกับข้าวทานเอง ใช้ครัวในบ้านนี่แหละ เราก็ชวนแกทานด้วย ได้เพื่อนทาน เพื่อนคุย และได้ข้อมูลที่น่าสนใจด้วย ลำบากนิดนึงตรงภาษาสเปนเราแบบอ่อนหัดมาก 555 

หลังจากทานอาหารเช้า คุยกันแล้ว เราก็ออกเดินไปในย่าน Miraflores ของเมืองลิม่า เดินไปตามถนนริมหาดที่สวยงาม ไม่แปลกใจว่าทำไมแถบนี้จึงเป็นแถบที่คนมีตังค์ของลิม่าอาศัยอยู่ 

ย่านที่พัก

Miraflores ด้านเลียบทะเล พร้อมกิจกรรมในวันหยุดของคนลิม่า

เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก หิวก็หาอะไรทาน ชิลล์ๆ ซึบซับทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศที่ดีมากๆ วันนี้

ตอนเย็น อยากตอบแทนเจ้าของบ้านที่น่ารัก และเราก็ต้องทานอาหารเย็นอยู่แล้ว แทนที่จะไปทานที่ร้านอาหาร ซื้ออะไรไปทำดีกว่า ว่าแล้วก็จัดเลย แวะ supermarket ใกล้ที่พัก ซื้อไปทำ ไม่ได้อะไร fancy ทำอะไรที่ง่ายมาก Steak ไก่ กับสลัด ชวน Mary ทานด้วยกัน อร่อย เพื่อสุขภาพ

2 พฤศจิกายน 

สงสัยอากาศเปลี่ยน หรือเหนื่อยจากการเดินทางก่อนหน้าในอาร์เจนตินาและชิลี ตื่นมารู้สึกล้าและไม่สบาย ปวดท้องเป็นไข้ อืมมมม เป็นสัญญานว่าให้พัก ทานอาหารเช้าเสร็จ กลับเข้าไปนอน ตื่นมายังมึนๆ แต่ถ้าอยู่ในบ้านตลอดวันจะป่วยยิ่งกว่าเดิม ออกไปเดินเล่น อากาศบริสุทธิ์ริมทะเลดีกว่า ว่าแล้วก็ออกไปชิลล์ ๆ อีกเช่นเคย ไม่หักโหม เดินซื้อกางเกงและเสื้อกันฝน และกระเป๋ากันน้ำ เพราะดูแล้ว inca trail ครั้งนี้ จะเป็นแบบเปียกแน่นอน 555 

3 พฤศจิกายน 

วันนี้เปลี่ยนที่พัก ไปที่โรงแรมในย่านไม่ไกลกัน เพราะต้องไปรวมกับกลุ่มที่จะเดิน inca trail ด้วยกัน บอกลา Mary หลังทานอาหารเช้า 

มาถึงโรงแรม ก็พบว่าเพื่อนร่วมห้องมาถึงก่อนแล้ว เธอเป็นชาวแคนาดา ชื่อ Manda พอเจอกัน ทักทายกันแล้วเราก็ถามเลยว่าเราจะเข้าไป downtown ของลิม่า โดยใช้รถ sightseeing bus ไปด้วยกันมั๊ย Manda ไม่รั้งรอตอบ “ไป” คล้ายกับเธอรออยู่แล้ว 555 ด้วยความที่เราจะมีประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจกับคนนำทางเราเย็นนี้ เราจึงมีเวลาจำกัด ดังนั้น กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่จอดรถ sightseeing แล้วเราก็ไปทันรอบที่เราต้องการ 

ใจกลางเมือง Plaza de Amas Lima

โบสถ์​ Cathedral de Lima

สถาปัตยกรรมแบบ Spanish-colonial ใน Lima 

ย่านธุรกิจ

และย่าน Barranco ที่นี่เป็นแหล่ง coffee shop ร้านอาหาร ที่มี terrace มองออกไปทะเล เป็นแหล่งที่ทั้งคนเปรู และนักท่องเที่ยวชอบมา hangout

ด้านชานเมืองลิม่า ก็มี Pachacamac เป็นวัดโบราณ ตั้งแต่ก่อนที่สเปนจะมายึดครองที่นี่

ถือว่าวันนี้ mission accomplished กลับมาถึงที่พักปรากฎว่าไม่ทันประชุม งงอ่ะดิ เราก็ตรงเวลานี่นา แต่ปรากฎว่าเค้าเปลี่ยนเวลา แต่เราสองคนไม่รู้ ไม่เป็นไร เค้าทิ้ง note ไว้ให้ คือพรุ่งนี้ เราจะออกเดินทางแต่เช้าเพื่อบินไป Cusco ออกเดินทางตี 4…โอเค รับแซ่บ!!!

4 พฤศจิกายน 

ตีสี่ ออกจากที่พัก ไปสนามบิน เพื่อบินไป Cusco ถึงตอนเกือบเที่ยงได้ check-in โรงแรม ซักซ้อมความเข้าใจกับคนนำทางที่รอเราอยู่ที่นั่น เตรียมของที่จำเป็นสำหรับการเดิน inca trail 4 วัน รวมถึงอีก 1 วันที่จะไปนอนที่ Ollantaytambo พรุ่งนี้ ก่อนเริ่มเดินด้วย

Cusco เป็นเมืองที่ altitude ที่สูงถึง 3,400เมตร เหนือระดับน้ำทะเล (ร่างกายมนุษย์จะเริ่มตอบสนองกับระดับออกซิเจนที่เปลี่ยนแปลงช่วงประมาณ 2,500 เมตรขึ้นไป) ใครที่ว่าแข็งแรง พอลงจากเครื่องบิน และเดินขึ้นบันไดที่พัก ก็รู้แล้วว่าตัวเองต้องปรับตัวเข้ากับระดับ altitude นี้แบบค่อยเป็นค่อยไป นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมต้องอยู่ที่ Cusco หนึ่งวันเต็ม ก็เพื่อให้ร่างกายปรับให้คุ้นกับระดับ altitude นี้ก่อน ไม่เช่นนั้นป่วยได้ และก็จะเดิน inca trail ไม่รอด หรืออาจจะต้องหยุดกลางคัน ก็มีหลายคน

ภาระกิจวันนี้ก็คือซื้อของที่จำเป็น เพราะเราจะต้องเตรียมของที่จะให้ลูกหาบถือแบบน้ำหนักพอดีเป๊ะ (กฎเค้าห้ามเกิน เกินเราต้องแบกเอง)​ ต้องวางแผนพอควร จะนอนที่นอนสนามมั๊ย หรือแค่ถุงนอน ภาวะเปียกแบบนี้ ควรมีที่นอนสนาม เพราะถ้าเปียกจะได้ไม่ถึงตัว ดังนั้น จัด แล้วชั่ง แบ่งให้ดี ลูกหาบถืออะไร เราถืออะไร ของเราต้องเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ต้องมีของใช้จำเป็นพอดำรงชีวิตได้ 

เราจะฝากของที่ไม่ต้องใช้ในอีกห้าวันข้างหน้าไว้ที่โรงแรมนี้ 

เข้าใจว่าต้องทำอะไรแล้ว ก็เดินสำรวจเมือง Cusco เป็นเมืองที่สวยจริงๆ อากาศดีมากตอนนั้น ไม่หนาวเกินไป อาจครึ้มสลับแดด ก็ไม่ถึงกับชื้นมาก กำลังดี ภูมิทัศน์และสถาปัตยกรรมของเมือง ที่ผสมผสานกันลงตัวแบบนี้ ทำให้เราแค่นั่งมอง ก็เพลินแล้วอ่ะ 

ย่าน square หรือ Plaza de Amas Cusco

ย่านตลาดของสด 

ย่านนักท่องเที่ยว 

ตกเย็นมาพวกเราไปร้านอาหารพื้นเมือง fusion หลายคนมักจะถือโอกาสนี้ชิมเบียร์ทำเองที่บ้านแบบพื้นเมืองและ pisco sour แต่เรายับยั้งใจไว้ก่อน วันนี้ focus เรื่องเตรียมร่างกายให้พร้อมกับ altitude และการเดินเท้าระยะไกลที่จะเกิดขึ้นในวันสองวันนี้ก่อน เสร็จเรียบร้อยจะดื่มอะไรก็ได้ตอนนั้น ตอนนี้อย่าซ่า เพราะ altitude sickness ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ 

ระหว่างเดิน เนื่องจากลักษณะ landscape เป็นแบบขึ้นเนินลงเนิน หลายคนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอาจจะมีปัญหากับ altitude ก็จะเริ่มทานยา เราแค่หอบ (แข็งแรงมากนะแกเนี่ย 555) ทุกคนพยายามนอนเร็ว เพื่อเตรียมร่างกายสำหรับการเดินเท้าอันน่าตื่นเต้นที่รอเราอยู่

จบตอนนี้ที่ Cusco ก่อนนะคะ แล้วตอน 2 เล่าต่อจาก Cusco ไป Ollantaytambo