7 มิถุนายน 55 

เช้าวันนี้หลังจากอาหารเช้า พวกเราก็เดินทางไป Pamukkale 

Hierapolis และ Pamukkale เชื่อมต่อกัน Hierapolis เป็นเมืองโบราณสมัย 300 BC โน่นเลย เป็นเมืองโบราณที่ชื่อแปลว่า Holy city หรือเมืองสวรรค์ ลักษณะคือเป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือน้ำพุร้อน ทั้ง Heirapolis และ Pamukkale เป็น UNESCO World Heritage Site เชื่อกันว่าเมืองโบราณแห่งนี้เป็น healing center ที่หมอใช้น้ำพุเป็นเครื่องมือในการรักษาผู้ป่วย (ถ้าสนใจประวัติเพิ่มเติม ถามอากู๋เพิ่มเติมเรยค่าาา 555)

หลังจากเดินชมเมืองโบราณ Hierapolis แล้ว เราก็เดินเล่นกันที่ Pamukkale เออ มันแลดูเหมือนจะลื่น ไม่ลื่นอ่ะ เพราะด้วยความที่ชั้น calcium มันหนาแน่นมาก สวย น้ำใส อากาศดีจัง 

Pamukkale เป็นอีกสิ่งมหัศจรรย์ความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้น เป็นสระน้ำ ที่มีชั้นๆ คล้ายๆ กับน้ำตกบนหินขาว ซึ่งเกิดจากการ form น้ำพุที่มี calcium bicarbonate สูงมากๆ ที่ไหลลงมาตามขอบเหว ทำให้เกิดการตกตะกอนของ calcium ไว้ตามที่ที่น้ำพุเหล่านี้ไหลผ่าน ก็เลยทำให้เกิดเป็นชั้นๆ สีขาวอย่างที่เห็น 

หลังจากเดินเล่นกันพอสมควร ก็ไปลงแช่น้ำที่บ่อน้ำพุร้อนที่ Hierapolis ให้หายเมื่อยเรย เค้าเชื่อว่าการลงแช่ในบ่อน้ำพุนี้จะช่วยรักษาโรค (แต่ว่าไปตามหลักการวิทยาศาสตร์แร่ธาตุในน้ำพุที่นี่ช่วยรักษาโรคผิวหนังจริงๆนั่นแหละ นอกจากนี้ยังช่วยการไหลเวียนของเลือดด้วย)​ จริงๆ เรามิได้เป็นโรคอาราย แต่ก็ลงไปแช่ได้ เพราะน้ำอุ่นพอดี ทำให้หายเมื่อยดี โดยเฉพาะความเมื่อยจากการนั่งรถนานๆ มาหลายวัน 

หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อไปยัง Selçuk เดินทางอีก 6 ชั่วโมง

วิวข้างทางระหว่าง Pamukkale ไป Selçuk  สวยเนาะ

พอมาถึง Selçuk ก็เอาของไปเก็บที่พัก คืนนี้เป็น home-stay วางกระเป๋าแล้วก็ออกไปหาอะไรทานเรย เป็นการสำรวจเมืองไปในตัว

ที่นี่เราสนใจไอติมที่นี่มาก ลีลาการเอาไอติมทั้งก้อนขึ้นมาหมุน ควง แหม เพลินกับการดูมากกว่าการกินไอติม 555

ชื่นชมลีลาการหมุนไอติม เลยต้องขอถ่ายรูปด้วยซักนิสสสส

8 มิถุนายน 55

เช้าวันนี้เป็นคิวของการไป Ephesus แล้ว Ephesus เป็นเมืองกรีกโบราณที่สร้างตั้งแต่ 1000 ปี BC เมือง Ephesus นี้มีชื่อเสียงก็เพราะ Temple of Artemis ซึ่งเป็น 1 ใน 7 Wonders of the Ancient World

the Library of Celsus

Street หรือถนนในเมือง Ephesus

Theater of Ephesus

จาก Ephesus ก็เดินทางต่อไป Ayvalik

วิวระหว่างทางสวยได้อีกอ่ะ

ระหว่างทางเราแวะที่โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะกอก เค้าแสดงให้ดูวิธีการผลิตแบบโบราณ และปัจจุบันมีบางอุปกรณ์ที่ปรับเป็นแบบสมัยใหม่แล้ว แต่ก็ทำให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลง 

หนึ่งในผลิตภัณฑ์คือสบู่ ห๊อมหอม

9 มิถุนายน 55

หลังจาก relax อีกนิดหน่อยที่ Ayvalik เราก็ออกเดินทางต่อไปที่ Canakkale เพื่อจะข้ามไป Gallipoli 

Gallipoli Peninsula เป็นส่วนของประเทศตุรกีที่อยู่ในเขตทวีปยุโรป เป็นส่วนของแผ่นดินที่ยื่นออกมาจากทวีปยุโรป ด้านตะวันตกเป็นทะเล Aegean ด้านตะวันออกเป็น Dardanelles straits หรือช่องแคบ Dardanelles ดังนั้นจะไป Gallipoli peninsula ก็ต้องนั่งเฟอรรี่ข้ามไป ที่ Gallipoli Peninsula นี้มีอนุสรณ์สถานที่สำคัญคือ ANZAC commemorative site ซึ่งเป็นที่รำลึกถึงชาว Australia New Zealand ที่มาตายในสงครามเมื่อสมัยที่อังกฤษบุกที่นี่ เมื่อปี 1915 

พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นพ้นขอบเนินเขา Gallipoli 

จะถึงอีกฝั่งแล้ว นั่นอยู่ตรงหน้านั่น Gallipoli Peninsula

อนุสรณ์รำลึกถึงชาว Australia และ New Zealand ที่เสียชีวิตในหน้าที่ ที่นี่

ทิวทัศน์มองจาก ANZAC commemorative site

Atatürk'ün Gözetleme Yeri

Ataturk (Mustafa Kemal) Monument อนุสาวรีย์ของ Mustafa Kemal Ataturk ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของ Gallipoli Peninsula และ President คนแรกของตุรกี

จาก Gallipoli ต่อไปยัง Troy อีกหนึ่ง UNESCO World Heritage Site พวกเรารู้จัก Troy บางคนจากตอนเรียนประวัติศาสตร์ แต่ส่วนใหญ่จากหนัง เพราะ Troy เป็นตำนานที่สำคัญ สงครามกรุงทรอย หรือ Trojan War เกิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 13 หรือ 12 ก่อนคริสตกาล 

ภาพเมือง Troy ที่เกิดจากการปะติดปะต่อจากซากที่ขุดขึ้นมา

กำแพงเมือง Troy

Odeon of Troy

ม้าไม้ที่เมือง Troy ใครไปก็ต้องถ่ายรูปด้วย

เสร็จจาก Troy ก็กลับเข้าไป Istanbul อีกครั้ง

คืนนี้พวกเราที่ร่วมทริปด้วยกัน ก็ร่วมฉลองคืนสุดท้ายก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง เราจะไปต่อที่ รัสเซีย ส่วนคนอื่นๆ ก็มีที่จะกลับบ้าน บางคนไปต่ออีกหลายประเทศเช่นกัน ดังนั้นคืนนี้ก็ต้อง downtown Istanbul เรย จะดีที่สุด

Istanbul ยามค่ำคืน

เพื่อนๆ ร่วมทริปไปด้วยกัน

คืนที่ประทับใจไปด้วยมิตรภาพที่ดี

10 มิถุนายน 55 

เช้าวันนี้เราก็ยังเดินไป grand bazaar ก่อนกลับมาเช็คเอ้าท์​เพื่อเดินทางต่อไปยังรัสเซีย

ระหว่างนั่งรถเพื่อไป airport ก็ได้มีโอกาส chat กับผู้หญิงคนที่นั่งข้างๆ ประสบการณ์การเดินทางของเธอน่าสนใจมาก เธอเป็นชาวฝรั่งเศส เป็น air stewardress ของสายการบิน Lufthansa ดังนั้นประสบการณ์การเดินทางของเธอเป็นแบบทั้งงานพาไปและแบบที่ใจเธอเรียกร้อง พอผ่านมาจนเธออายุกว่าหกสิบแล้ว เธอยังเดินทางอยู่ แต่ตอนนี้เป็นแบบหรูหราขึ้นมามาก เพราะเธอบอกว่าพออายุเริ่มเยอะ คนเราจะต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างไปจากตอนที่เรายังอายุน้อยอยู่ (อันนี้เห็นด้วยมากๆ เพราะลองเทียบตอนยังเรียนอยู่ รถไฟชั้น 3 เหรอ ชั้นนั่งได้ สบายมาก ตอนนี้อาจจะมีเลือกนิสนึง) แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอหยุดการเดินทางของเธอ เพียงแค่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างไปเท่านั้น (เราก็หวังว่าจะได้มีโอกาสทำอย่างที่เธอทำ)

เป็นอันว่าจบทริป 10 วันอย่างประทับใจที่ตุรกี :)