ประเทศ Peru ตอนที่ 3
Posted on March 6, 2015 17:55


ตอนนี้จะเป็นประสบการณ์ 4 วันบน Inca Trail ระยะทางทั้งหมด 44 กม. แม้ว่าจะเตรียมตัวฟิตร่างกายมาระดับหนึ่ง แต่ชื่อเสียงของความชันนั้น ก็ใช่ว่าจะทำให้เราสบายใจนัก ว่าแล้วมาเริ่มกันเลย

align=

6 พ.ย. 55
วันนี้เบาๆ 11 กม. เดินเท้าจาก กม. 82 ถึง Wayllambama ระยะทาง 11 กม. เป็นการเดินเขา 5-6 กม. วันนี้เหมือนเตรียมร่างกาย เพราะไม่ค่อยชันเท่าไหร่ เดินผ่านหมู่บ้านชาวเขาเล็กๆ เป็นระยะๆ 

กับเพื่อนๆ ร่วมเดิน
align=

ลูกหาบเดินนำลิ่วเรย ขนาดมีของบนหลัง
align=

วันนี้ยังไม่ขันเท่าไหร่
align=

ระหว่างทางผ่าน Patallacta ซึ่งเป็น site โบราณตั้งแต่ 500 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งเชื่อว่าเป็นพื้นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
align=

align=

align=

ใกล้ๆ จะถึงที่จะต้องตั้งแคมป์ ที่เป็น hilight ของวันนี้แบบไม่คาดคิด พวกเรา spot หมีสองตัว เรียกว่าหมีแว่น หรือ spectacled bear (Tremarctos ornatus) คนท้องถิ่นเรียกมันว่า ukuko หรือ ukumari ในระยะที่ค่อนข้างไกล สามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องส่องทางไกล ตื่นเต้นเป็นที่สุด เพราะไม่ค่อยมีใครได้เจอกันแล้วเดี๋ยวนี้ แต่เราได้เจอ แม้ว่าจะไกลมาก เราก็ยังพยายามเอากล้องที่ซูมได้ไม่ไกลมากขึ้นมาถ่าย มองเห็นเป็นจุดดำๆ สองจุด แต่ก็ถือเป็นความทรงจำของเรา 

กล้องซูมได้ไม่ไกล เลยได้แค่เป็นจุดๆ มา 
align=

แต่จากกล้องส่องทางไกล หมีสองตัวคือแบบนี้ (อันนี้รูปถ่ายจากป้ายสื่อความหมายในอุทยาน) 
align=

เย็นนี้กางเต้นท์ ตั้งแคมป์บนเนินเขาที่ Wayllambama ที่ตัดกับ Mollepata Trail ระดับประมาณ 3,000เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บรรยากาศดี๊ดี ที่นี่มีหมู่บ้านเล็กๆ ประมาณ 400 ครัวเรือนตั้งอยู่ ระหว่างทำความคุ้นเคยกับเต้นท์นอน ก็มีสองสาวน้อยชาวเขามาทักทายด้วย น่ารักจัง
align=

align=

ระหว่างทำความคุ้นเคยกับเต้นท์นอน ก็มีสองสาวน้อยชาวเขามาทักทายด้วย น่ารักจัง
align=

คืนนี้ก็เริ่มทานอาหารแบบที่มีกากใยน้อยที่สุด ดื่มน้ำแค่พอจำเป็น เพื่อจะได้ไม่ต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน 

ฝนตกปรอยๆ มาตลอดทาง ตกกลางคืนหนาว ชี้น ยิ่งไม่อยากเข้าห้องน้ำ ก็หนีไม่พ้น โอ๊ยยยยย ไม่อยากเข้าเรย สะกดจิตตัวเอง ไม่ปวด ไม่ปวด ไม่ปวด และก็หลับไปจนได้แบบสะกดจิตตัวเอง

7 พ.ย. 55 
ตื่นเช้ามา รีบทานอาหารเช้า เพื่อรีบออกเดินประมาณ 7โมงเช้า ก่อนออกเดินทางยังสดใสกันอยู่ แม้ว่าการนอนเต้นท์จะทำให้หลายคนนอนไม่ค่อยหลับ เพราะก็มันไม่สบายเหมือนนอนฟูกนุ่มๆ แหละ 

ก่อนเดินทางก็ถ่ายรูปหมู่กันซํกหน่อย ทั้งผู้มาเยือนอย่างพวกเรา ทั้งทีมงานคอยอำนวยความสะดวกให้พวกเรา ว่าหน้าตาสดใสพร้อมลุยขนาดไหน
align=

แผนที่เส้นทาง เห็นแล้วชันจ้า ชันจริงๆนะ
align=

วันนี้เดินเท้าต่อจาก Wayllabamba ถึง Paqaymayo ระยะทาง 12 กม. ใช้เวลา hike 6-7 ชั่วโมง วันนี้จะชันแบบนี้เรย ฝนก็ตกแบบปรอยๆ เป็นระยๆ ไปตลอดทาง หลายคนเริ่มรู้ไม่สบาย เริ่มหายใจไม่ทัน ต้องลดสปีดการเดินลงอย่างมากเมื่อไม่ให้เกิดปัญหากับร่างกายในการปรับตัวได้ วันนี้แหละที่คนที่ไม่ได้แข็งแรงมากอย่างเรา สามารถเดินได้แบบสปีดปกติ ในขณะที่คนที่เป็นนักกีฬาบางคนต้องเดินช้าลงอย่างมาก กลายเป็นว่าเราเป็นกลุ่มที่สองที่ถึงจุดหมายต่อจากนักวิ่งมาราธอนเท่านั้น รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก ขอบอก 

วันนี้ไม่มี ruin site ระหว่างทาง แต่เป็นการเดินชมแบบขึ้นลงเขาที่ชันมาก แต่ระหว่างทางมันสวยจริงๆ เรย 

เส้นทางเดิน เกือบจะทั้งเส้นทางจะมีลักษณะการเรียงหินทางเดินแบบนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเส้นทางเดินเดิมของชาวอินคาเค้าล่ะ และลักษณะป่าไม้ที่นี่เรียกว่า Cloud Forest หรือป่าเมฆป่าหมอก ก็คือป่าไม้ในเขตร้อนชื้นที่มีความชื้นค่อนข้างสูง เดินทางเส้นนี้ฤดูนี้ จะเห็นชัด หมอก เมฆ เต็มไปหมด บางช่วงมองข้างหน้าเห็นระยะได้ไม่มากด้วย เพราะหมอกหนามาก
align=

จุดพักระหว่างทาง บางกลุ่มแคมป์ที่นี่
align=

มองลงมาจากเขา เห็นที่ราบด้านล่าง มีแกะ ลามะป่า ตลอดทาง สวย เวลาเหนื่อย หยุดมอง ก็เพลินดี
align=

พัก เติมใบ coca ในกระพุ้งแก้ม จากนี้ไปชันสุดฤทธิ์ 
align=

ยอดที่เห็นคล้ายนมสาวนั่นแหละ คือจุดที่เราต้องไปให้ถึง แลดูไกล แต่ตอนเดิน ขอบอกไม่ไกลเรย 
align=

มาถึงแล้วจุดสูงสุด ภูมิใจมาก 
align=

มองลงไปทางที่เราเดินขึ้นมา 
align=

แต่ยังไม่จบการเดินวันนี้ นี่เป็นเพียงแค่จุดที่จากนี้ไปจะเป็นการเดินลงซะเยอะ คิดถึงสภาพเข่าเรย ฝนตกเดินบนหินมีลื่นก้นจ้ำเบ้ากันเป็นระยะๆ แน่นอน และก็เป็นเช่นนั้นสามสี่ครั้งที่เดียว

จุดตั้งแคมป์คืนนี้ที่ Llulluch’apampa สวยอีกคืน อยู่ประมาณระดับ 3,800เมตร เหนือระดับน้ำทะเล 
align=

กับเพื่อนร่วมเต้นท์ชาวแคนาดา
align=

ฝนตกหนักขึ้นตอนกลางคืน แม้ว่าเราจะมีฟูกพลาสติกบางๆ รองในเต้นท์ แต่ฝนตกชะเอาน้ำเข้าใต้เต้นท์ เปียกชื้นมาก นอนกันแทบไม่หลับเลยทีเดียว 

8 พ.ย. 55
วันนี้เดินเท้าต่อจาก Paqaymayo to Wiñaywayna ระยะทาง 16 กม. ใช้เวลา hike 8 ชั่วโมง วันนี้เป็นการเดินขึ้นเขาแบบชันสุดๆ อีกวัน
align=

ระหว่างทางผ่าน Tambo runkuraqay site อยู่ประมาณ 3,750เมตร เหนือระดับน้ำทะเล site นี้เป็น site ที่เป็นป้อมมองลงไปเห็นหุบเขาด้านล่าง site นี้เชื่อว่าเป็นป้อมป้องกันภัยคือเอาไว้มองว่ามีศัตรูที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาในอาณาเขตหรือไม่ 
align=

ต่อมาก็มาถึง Phuyupatamarka ruins ฝนตกจริงๆเรย หมอกลงหนามาก เปียกแฉะดีจิงจิ๊งงงงง
align=

align=

หลังจากนั้นเราก็เดินมาถึงที่ตั้งแคมป์คืนนี้ไม่ไกลจาก Wiñaywayna นัก วางกระเป๋านั่งพักขาซักครู่ ก็เดินไปที่ Intipata ซึ่งเป็นเชื่อว่าเป็นพื้นที่เพาะปลูกแบบขั้นบันไดเมื่อโบราณกาล 

align=

align=

มองลงไปเราจะเห็นแม่น้ำสำคัญของ inca trail นั่นก็คือแม่น้ำ Willkanuta 

เดินขาลากมาสามวันแล้ว พอมาเจอวิวนี้ขอบอก หายเหนื่อนเรยนะ สวย นั่งมองได้เพลินมาก เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น มีแต่พวกเรา ทำให้มีเวลาในการชื่นชมความงามได้อย่างเต็มที่ สวย สงบมากๆ 
align=

align=

ติดกันกับ Initapa ก็เป็น Wiñaywayna ซึ่งมีทั้ง terrace แบบขั้นบันไดและอาคารอยู่ติดกันสองหลังตรงกลาง ที่ตั้งตรงนี้ล้อมรอบด้วยน้ำตกและน้ำพุจำนวนมากมายไหลผ่าน เหมาะแก่การเพาะปลูกเป็นอย่างมาก สวยเนาะ
align=

align=

align=

จบตอนนี้เพียงเท่านี้ ตอนต่อไปจะเป็นประสบการณ์ที่ Machu Picchu และป่าอเมซอนตอนใต้ค่ะ

#thaitraveltheworld #Peru #incatrail